ทอดเบือหญ้าช้อง ของหรอยเมืองพังงา อาหารพื้นนเมืองคนใต้ หากินยาก
ทอดเบือหญ้าช้อง ของหรอยเมืองพังงา อาหารพื้นเมืองคนใต้ หากินยาก หากพูดถึงคนใต้แล้ว ทุกคนจะรู้จักกันดีว่า เป็นคนใจคอค่อนข้างจะหนักแน่น พูดเร็ว ทำเร็ว และอาหารใต้ก็เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงลักษณะของคนใต้ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องรสชาติอาหารที่ เผ็ดจัด เค็มจัด ตลอดจนเปรี้ยวจัด อาหารใต้ที่เลื่องชื่อลือนาม เช่น แกงไตปลา แกงเหลือง น้ำบูดู น้ำพริก และอื่นๆ ที่ต้องบอกว่า รสชาตินั้นต้องเผ็ดร้อน จึงทำให้อาหารใต้ทุกๆ มื้อต้องประกอบไปด้วยผักสดต่างๆ เช่น สะตอ ลูกเนียง ลูกเหรียง ที่จะต้องมีติดไว้ในแทบทุกมื้อของอาหาร และนอกจากนั้นยังมีผักชนิดต่างๆ ทั้งบนดินและใต้น้ำ จะกินแบบสดๆ หรือจะเอามาชุบแป้งแล้วทอดกรอบๆ เพื่อช่วยลดความเผ็ดร้อนของอาหารใต้ หรืออาจกินเป็นอาหารว่าง อาหารกินเล่นๆ เช่น ใบเหลียง ใบเล็บครุฑ ใบชะพลู ที่เอามาชุบแป้งทอดกรอบๆ และยังมีผักอีกชนิดหนึ่งที่หน้าตาอาจจะดูแปลกๆ ชื่อ หญ้าช้อง
สำหรับผู้เขียน มีโอกาสได้รู้จักกับพืชนิดนี้ครั้งแรกในจังหวัดระนอง และได้ลองลิ้มชิมรสชาติเมนู ทอดเบือหญ้าช้อง ที่อำเภอกะปง จังหวัดพังงา เป็นครั้งแรกเหมือนกัน รู้สึกว่ามันแปลกและอร่อยดี จึงต้องนำมาบอกต่อๆ ให้ทุกท่านได้รู้จักเมนูอร่อยๆ กันค่ะ
พลับพลึงธาร หญ้าช้อง
การนำมาเสนอก็เพียงแค่ต้องการแนะนำเมนูพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง ทอดเบือหญ้าช้อง ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรปากพู่พัฒนา อำเภอกะปง จังหวัดพังงา ซึ่งผู้ไปเยือนอย่างผู้เขียนต้องขอบอกว่าเป็นเมนูเด็ดและอร่อยจริงๆ
พลับพลึงธาร ถูกจัดให้เป็นพืชใต้น้ำที่สวยงามและหายากมากที่สุดชนิดหนึ่ง และเป็นพืชล้มลุกที่มีหัวอยู่ใต้ดินของท้องน้ำ มีลักษณะคล้ายหัวหอม
ใบ จะมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว ออกจากส่วนปลายของหัวที่เรียงซ้อนกันเป็นวง ใบจะแทงยาวขึ้นผิวน้ำด้านบน แต่ละใบมีลักษณะเรียวยาว แผ่นใบมีสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม และใบสีเขียวจะเรียวยาวเหมือนริบบิ้น ความยาวขึ้นอยู่กับระดับน้ำ บางพื้นที่ที่น้ำลึกใบอาจจะยาวได้ถึง 4 เมตร
หัว มีลักษณะคล้ายหัวหอม จึงมีชื่อเรียกว่า หอมน้ำ แต่ละหัวมีใบ ประมาณ 10-20 ใบ หัวจะโผล่ขึ้นเหนือผิวดิน ประมาณ 1 ใน 3 เพื่อป้องกันการเน่า
ดอก ออกเป็นช่อ ก้านดอกยาวแทงขึ้นมาจากตรงกลางของส่วนหัว แต่ละหัวมีก้านดอก 1 ก้าน ปลายก้านดอกโผล่พ้นน้ำ มีดอกย่อย 5-8 ดอก แต่ละดอกประกอบด้วยก้านดอก สีเขียวแกมม่วง และมีกาบหุ้ม ดอกตูมมีลักษณะเป็นหลอดที่เป็นกลีบ ดอกสีเขียวอมขาวหุ้มติดกัน เมื่อดอกบานจะแผ่กลีบดอกออกเป็นรูปร่ม จำนวน 6 แผ่น กลีบดอกเรียบ มีสีขาว ดอกพลับพลึงธารเป็นดอกไม้ประจำท้องถิ่น ลักษณะของดอกพลับพลึงธารจะเป็นดอกตูมสีขาว ชูช่อขึ้นเหนือน้ำ หากบานแล้วจะส่งกลิ่นหอมอบอวล
ผล พลับพลึงธารออกเป็นผลเดี่ยว แต่รวมกันหลายผลบนก้านผล ผลมีลักษณะทรงกลม เปลือกผลบาง มีลักษณะอ่อนนุ่ม ด้านในผลมีเมล็ด ประมาณ 5 เมล็ด
เบือทอด คือ ชื่อเรียกเมนูที่ใช้หญ้าชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบของกุ้ง และหญ้าช้องตัดเป็นท่อนๆ และเรียงกุ้งวางด้านบน นำมาชุบแป้งทอดกรอบที่ปรุงรสผสมเครื่องเทศ แล้วนำไปทอด กินกับน้ำจิ้มรสหวานๆ เปรี้ยวๆ และเผ็ดเล็กน้อย…จึงขอนำสูตรและวิธีทำ เบือทอดหญ้าช้อง ของคนพังงามาฝากกันค่ะ (สูตรจะคล้ายๆ กับทอดมันกุ้งใบเล็บครุฑ)
เครื่องปรุง เบือทอด
กุ้งสด
แป้งข้าวเจ้า หรือแป้งสาลี
เครื่องแกงกะทิ
หญ้าช้อง
น้ำมันพืชสำหรับทอด
เกลือ
วิธีทำ
ล้างกุ้งให้สะอาดโดยไม่ต้องแกะเปลือกกุ้งออก
เอาแป้งละลายน้ำ ระวังอย่าให้เหลวมากเกินไป แล้วเอาเครื่องแกงละลายกับแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน (หากอ่อนเค็มให้เติมเกลือได้นิดหน่อย)
ตั้งน้ำมันรอให้เดือด
เอาหญ้าช้องไปชุบในแป้งละลายน้ำที่เตรียมเอาไว้ แล้วเอาลงทอดในน้ำมัน
เอากุ้งชุบแป้งอีกนิดหน่อย แล้ววางลงบนใบหญ้าช้องสัก 2-3 ตัว รอจนสุกจึงตักขึ้นวางไว้ให้สะเด็ดน้ำมันก่อน ต้องกินหลังจากทอดเสร็จใหม่ๆ ได้รสสัมผัสที่กรอบ อร่อย และยิ่งได้กินคู่กับน้ำจิ้มเปรี้ยวๆ หวานๆ จะช่วยลดความมันได้มากทีเดียว
สูตรน้ำจิ้ม เอากระเทียมตำกับพริกสด ใส่เกลือ น้ำตาล มะนาว (น้ำส้มสายชู) ปรุงรสตามต้องการ
ทอดเบือหญ้าช้อง อาหารพื้นบ้านคนใต้ เป็นอาหารไทยโบราณ สำหรับขั้นตอนและกรรมวิธีในการปรุงก็ไม่ยุ่งยากหรือต้องใช้ความพิถีพิถันในการปรุงแต่อย่างไร ที่สำคัญต้องหา หญ้าช้อง ให้ได้เท่านั้นเอง ซึ่งในวันนั้นทางกลุ่มแม่บ้านบอกกับผู้เขียนว่า…หญ้าช้องที่ได้นั้นไม่ค่อยงามสักเท่าไหร่ เพราะพืชน้ำชนิดนี้พบมากในช่วงฤดูฝนเท่านั้น และก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ เพราะนับวันยิ่งจะเริ่มหายากขึ้นๆ ด้วยพืชน้ำชนิดนี้เป็นพืชที่บ่งบอกว่า สายน้ำตรงบริเวณนั้นต้องเป็นแหล่งน้ำไหลที่มีสภาพน้ำใส สะอาด การระบายน้ำดี และน้ำมีคุณภาพดีเยี่ยมจริงๆ พืชชนิดนี้จึงจะเจริญเติบโตสวยงาม สามารถที่จะนำมากิน หรือนำมาปรุงอาหารได้ว่างั้น!
ท่านสามารถติดตามการอัพเดตข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : muhoro.net